เชื้อราไมคอไรซ่า เชื้อราดีอาศัยอยู่ในรากพืช ช่วยเร่งราก ขนรากมาก พืชโตไว
เชื้อราไมคอไรซ่า เชื้อราดีอาศัยอยู่ในรากพืช ช่วยเร่งราก ขนรากมาก พืชโตไว
เชื้อราไมคอร์ไรซ่า (Arbuscular Mycorrhiza)
ไมคอร์ไรซา (mycorrhiza) เป็นการอยู่ร่วมกันแบบภาวะพึ่งพากันระหว่างราและรากพืช โดยที่พืชได้รับน้ำและธาตุอาหาร เช่น ฟอสฟอรัสและไนโตรเจนจากรา ในขณะที่ราได้รับสารอาหารที่จำเป็น เช่น น้ำตาล กรดอะมิโนและวิตามินจากพืชผ่านทางระบบราก เส้นใยของราที่เจริญอยู่ภายนอกรากและภายในรากจะช่วยเพิ่มพื้นที่ผิวในการดูดซึมธาตุอาหารให้แก่พืช จึงทำให้พืชที่มีราไมคอร์ไรซาอาศัยอยู่ที่รากมีอัตราการเจริญเติบโตสูงกว่าพืชที่ไม่มีราไมคอร์ไรซา
นอกจากนี้ราไมคอร์ไรซายังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของราที่เป็นสาเหตุของโรคพืช จากการศึกษาพบว่า รากของพืชเกือบทุกชนิดมีฟังไจไมคอร์ไรซาอาศัยอยู่ และมีส่วนช่วยให้พืชรอดชีวิตเมื่อเจริญบนดินที่มีสภาพไม่เหมาะสมได้ เช่น ดินที่มีความเป็นกรดสูง ดินเค็มและดินที่ขาดธาตุอาหาร เป็นต้น
ชนิดของไมคอร์ไรซา จากลักษณะทางสัณฐานวิทยาและสรีรวิทยาของฟังไจ สามารถจำแนกไมคอร์ไรซาได้เป็น 2 กลุ่ม ที่มีความสำคัญและมีการแพร่กระจายมากคือ
เอคโตไมคอร์ไรซา (ectomycorrhiza) ป็นการอยู่ร่วมกันระหว่างราและรากพืช โดยเส้นใยของราจะเจริญรอบๆ รากและสานตัวเป็นแผ่นหรือเป็นปลอกหุ้มเรียกว่าแมนเทิล มักพบอยู่ร่วมกับรากของพืชใบเลี้ยงคู่ที่เป็นไม้พุ่มและไม้ต้นประมาณ 8000 ชนิด เช่นพืชในวงศ์สน (Pinaceae) และวงศ์ยาง (Dipterocarpaceae) เป็นต้น
อาบัสคูลาไมคอร์ไรซา (arbuscular mycorrhiza) หรือเอนโดไมคอร์ไรซา (endomycorrhiza) เป็นการอยู่ร่วมกันระหว่างราและรากพืช โดยเส้ยใยของราเจริญเข้าไปในเซลล์ของราก และสร้างอาบัสคูล (arbuscule) ซึ่งมีลักษณะคล้ายกะหล่ำดอก ซึ่งราใช้สะสมธาตุอาหาร และส่งธาตุอาหารไปให้กับพืช ราชนิดนี้สามารถอาศัยอยู่ร่วมกับพืชได้เกือบทุกชนิดและพบในระบบนิเวศที่หลากหลาย เช่นป่าเขตร้อน ป่าโกงกาง ทุ่งหญ้าและทะเลทราย เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบในพื้นที่เกษตรกรรมที่ปลูกพืชไร่ เช่น ข้าว ข้าวสาลี ข้าวโพดและมะเขือเทศ เป็นต้น และพบในพืชสวน เช่น ทุเรียน ลำใยและส้ม เป็นต้น
ประโยชน์
ช่วยเพิ่มพื้นที่ผิวรากพืชในการดูดน้ำและธาตุอาหาร รวมถึงดูดซับธาตุอาหารที่ละลายได้ยากในดิน เช่น ฟอสฟอรัส (P) และ โพแทสเซียม (K)
ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช ช่วยเร่งรากให้แตกไวเติบโตเร็ว รากแข็งแรง มีขนอ่อนที่รากมากขึ้น ทำให้ต้นใหญ่ดูดซึมสารอาหารในดินได้เยอะ
ช่วยให้พืชทนทานต่อโรครากเน่าหรือโคนเน่าที่มีสาเหตุมาจากเชื้อรา
ลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้
ช่วยให้พืชทนต่อการขาดน้ำนานๆ ทนต่อสภาพอากาศร้อนได้ดี
วิธีการใช้
ใช้ผสมกับดินที่ใช้เพาะเมล็ด ผสมกับดินที่รองก้นหลุม หรือใช้หว่านรอบโคนต้น รอบทรงพุ่มบริเวณใกล้รากไม้ โดยผสมอัตราส่วน ผงเชื้อไมคอร์ไรซ่า 25 กรัม ต่อดินปลูก 1 กก.
การเก็บรักษาและข้อควรระวัง
ไม่ควรใช้ปุ๋ยชีวภาพไมคอร์ไรซ่าร่วมกับสารกำจัดโรคพืชพวก fosetyl metalaxyl และ mancozeb + metalaxyl เนื่องจากสารเคมีเหล่านี้มีผลยับยั้งการเจริญเติบโตของไมคอร์ไรซ่า และห้ามเก็บปุ๋ยชีวภาพไมโคคอร์ซ่าที่อุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส หรือโดนแสงแดดโดยตรง ให้เก็บไว้ในที่ร่ม และหลีกเลี่ยงความชื้น