หน้าวัวแคระ 5 สี 5 แบบ Anthurium Flamingo Flower
♥️♥️♥️กระถาง 4-6นิ้ว♥️♥️♥️
ความสูงรวมกระถาง30-40ซม.
💚💚💚มี 5 แบบ 5 สี💚💚💚
หน้าวัว (Flamingo Flower หรือ Boy Flower)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Anthurium andraeanum
สกุล : Anthurium
วงศ์ Araceae
หน้าวัว มีถิ่นกำเนิดในฮาวาย ปัจจุบันกระจายพันธุ์ได้เกือบทุกทวีป แต่จะเจริญดีในภูมิอากาศแบบร้อนหรือร้อนชื้น (15 - 30 องศาเซลเซียส) เป็นไม้อายุหลายปี อวบน้ำลำต้นตรง โดยจะมีการแตกหน่อเลื้อยมีการเจริญยอดเดียว เมื่อยอดเจริญสูงขึ้นอาจพบรากบริเวณลำต้น โดยจะแตกเมือมีความชื้นเพียงพอ เนื่องจากเป็นพืชระบบรากอากาศสามารถดูดน้ำและความชื้นจากอากาศได้ดี
ช่อดอกของหน้าวัวหรือที่เรียกว่า ปลี คือ ส่วนที่เป็นดอกจริง ซึ่งประกอบด้วย ก้านช่อ ซึ่งมีดอกย่อยเล็กเรียงอัดแน่นอยู่บนปลี ดอกย่อยนี้เป็นดอกสมบูรณ์เพศ ที่มีทั้งเกสรเพศผู้และเกสรเพศเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน ดอกที่อยู่บนก้านดอกนี้จะมีสีต่างๆหลายสี เมื่อจานรองดอกคลี่ปลีออกจะมีสีเหลืองอ่อน หรือสีปนแดง ตามสายพันธุ์ ดอกที่อยู่โคนปลีจะเปลี่ยนเป็นสีขาว ไล่ไปปลายปลี แสดงว่า ดอกบาน และเมื่อตุ่มยอดเกสรตัวเมียเริ่มมีน้ำเหนียว ๆ แสดงว่าดอกนั้นพร้อมที่จะผสมเกสรตัวผู้จะบานภายหลังเกสรตัวเมีย ดังนั้นหน้าวัวส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยมีโอกาสผสมตัวเอง ยกเว้นบางสายพันธุ์ นอกจาก นี้เกสรตัวผู้ของหน้าวัวลูกผสมส่วนใหญ่ จะมีเกสรตัวผู้ฟุ้งเมื่ออุณหภูมิเย็น โดยมากมักจะผสมในช่วงฤดูหนาว
ในประเทศไทยพบหน้าวัว จำนวน 2 ชนิดใหญ่ๆ คือ
1. Anthurium andraeanum โดยทั่วไปใช้เป็นพืชตัดดอก มีทั้งหมด 4 สี คือ
1.1 พันธุ์ที่มีจานรองดอกสีขาว เช่น พันธุ์ขาวคุณหนู
1.2 พันธุ์ที่มีจานรองดอกสีชมพู เช่น พันธุ์ศรียาตรา พันธุ์จักรเพชร
1.3 พันธุ์ที่มีจานรองดอกสีแดง พันธุ์ที่นิยมเป็นไม้ตัดดอกของเมืองไทย คือ พันธุ์ดวงสมร (พันธุ์นี้มีลักษณะของจานรองดอกสีแดงเข้ม รูปหัวใจ ปลีมีสีเหลือง เมื่ออายุมากขึ้นถึงแก่จะมีสีขาว)
1.4 พันธุ์ที่มีจานรองดอกสีส้ม เช่น พันธุ์สุหรานากง (มักใช้ประกวด) และพันธุ์ดาราทอง (มักใช้เป็นไม้กระถาง)
2. Anthurium schzerianum เป็นชนิดที่มีสีของจานรองดอกแตกต่างกัน และไม่ค่อยนิยมปลูกเลี้ยงในไทย เนื่องจากต้องการความเย็นและความชื้นสูงกว่า Anthurium andraeanum ส่วนใหญ่มักพบการปลูกเลี้ยงในสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และสวิสเซอร์แลนด์
การเพาะเมล็ดหน้าวัว
โดยทั่วๆไป หน้าวัวมีระยะเวลาในการเพาะเมล็ด ประมาณ 1 – 2 อาทิตย์ รอจนต้นที่ได้ สูง 6 – 8 เซนติเมตร ซึ่งใช้ระยะเวลา 1 ปี จึงย้ายลงในกระถาง หลังจากนั้นเลี้ยงต้นอีก 1 ปี จึงจะออกดอกแรก
การปลูกหน้าวัว ต่างกับการปลูกไม้ดอกชนิดอื่น โดยเมื่อมีการเจริญเติบโต ต้นจะโตสูงข้น และทิ้งใบล่าง จึงควรปลูกในกระถาง และเลือกใช้ขนาดกระถางให้พอเหมาะ ไม่เล็กเกินไป
เครื่องปลูกสำหรับใส่ลงกระถางเพื่อปลูกหน้าวัว แนะนำให้ใช้ส่วนผสมเป็น อิฐมอญ/ใบก้ามปูแห้ง/ปุ๋ยคอก ในอัตรา 1 : 2 : 1 และเมื่อปลูกได้ประมาณ 3 - 4 เดือน เครื่องปลูกมักจะยุบตัว ต้องคอยหมั่นเติมเครื่องปลูกให้อยู่สภาพเดิมเสมอ
หน้าวัวเป็นพืชที่ต้องการแสงแดดประมาณ 30% หรือได้รับประมาณ 70-75% จึงต้องมีการพรางแสง ถ้าไม่พรางแสงให้ใบจะไหม้ ต้นหยุดการเจริญเติบโต ในการสร้างโรงเรือนให้แก่หน้าวัว ระวังอย่าสร้างให้ร่มเกินไป ใบหน้าวัวจะมีการเจริญเติบโตดี ใบสีเขียวเข้ม หนา แต่ดอกไม่ดก